Welcome to Poom's Blog
เข้ามาเยี่ยมชมกันได้เลยนะฮะ Blog นี้มีแต่เรื่องผมล้วนๆฮะ
วันพุธที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2553
1 กรกฏาคม 2553
วันนี้เฮียภุมิไปโรงเรียนแล้ว เมื่อวานหม่าม้าไปเอาการบ้านจากคุณครูน้อยมาให้ทำ ตั้ง9 หน้าแน่ะ แต่ภุมิก็ทำจนเสร็จเรียบร้อยนะ ไปหาหมอ หมอธงชัยไม่อยู่ ต้องหาหมอเฉลิมไทย หมอบอกว่าหนูเป็นไข้หวัด ให้เอายาไปกินก่อน แล้วรอดูอาการ หากไม่ดีขึ้นเย็นนี้ต้องไปหาอีกที แต่ว่าวันจันทร์หน้า หมอนัดไปตรวจภูมิแพ้นะจ๊ะ
วันอังคารที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2553
ป่วยซะแล้ว
วันนี้น้องภูมิไม่สบายตอนช่วงเย็นๆ หม่าม้ารีบกลับบ้าน เพราะคิดว่าจะมาสอนการบ้าน จับตัวหนูดู รู้สึกว่าตัวรุมๆ พาไปกินข้าวไม่ยอมกิน ขนมก็ไม่กิน ซึ่มๆ แล้วต่อมาก็ัตัวร้อนมากขึ้น วัดไข้ตอนทุ่มนึง อุณหภูมิ 39 องศา หม่าม้าให้กินยาแล้วเช็ดตัว อมวิตามินซีไป 1 เม็ด แล้วนอน ไม่รู้พรุ่งนี้จะเป็นยังไง จะไปเรียนได้หรือเปล่าเอ่ย
วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2553
เจ็บตัวอีกแล้วน้องภูมิเอ๋ย
วันนี้หม่ามุ้ารีบมาทำงานเพราะมีประชุม น้องภูมิบอกว่า คุณครูให้ตัดเล็บ ย่าช่วยตัดให้ แต่ว่าย่ามองไม่ค่อยชัด เลยตัดเข้าไปซะลึ๊กกกกกกกเลย หนูบ่นตลอดทาง เจ็บ เจ็บ หม่าม้าขอโทษหนูนะที่หนูต้องเจ็บตัวเพราะหม่าม้าเร่งรีบอีกแล้ว แป่ววววว
แผลเป็น
หม่าม้าจะเล่าให้ฟังตั้งกะ หนูเกิดนหนูอาุยุ 5 ขวบกว่าเนี่ย มีเหตุการณ์อกสั่นขวัญผวา พาให้หน้ามืด วิงเวียนอะไรบ้าง
1. ตอนอายุ 1 ขวบ กลางดึกเวลา ตี 2เศษๆ ทุกคนหลับสนิท อยุ่ดีๆ เสียงหนูก็ร้องลั่นขึ้น หม่าม้าตกใจเลย หนูนอนตกเตียง เตียงก็ใช่สูงน้อยซะเมือไหร่ ประมาณ 2 ฟุตกว่าๆแน่ะ ที่สำคัญตกลงไปโดนมุมเครื่อง printerพอดีเลย ผลปรากฏหนังตาหนูเลือดออก ทุกวันนี้ยังมีแผลเป็นให้เห็นอยู่เลย
2. ตอนอายุ 2 ขวบ หม่าม้าก็พาไปปั่นจักรยานเล่น ปั่นไปหั่นมา กำลังจะเลี้ยว ขาหนูดันไปติดในซื่ล้อจักรยาน หม่าม้าก็ออกแรงปั่นไป หนูก็ร้องกรี๊ดเลย หม่าม้าหน้าซีด ตกใจมาก กลัวหนูขาหัก เพราะมันอัดเข้าไปแรงมาก หม่าม้าก็จอดจักรยานไว้กลางถนน ไปขอน้ำแข็งร้านส้มตำมาประคบให้หนู หนูมีเลือดซึมออกมา 3-4 แผล สงสารหนูมากเลย แล้วหนูก็ไม่กล้านั่งจักรยาน หม่าม้าเลยอุ้มหนูด้วย ปั่นจักรยานด้วย ตอนนี้หนูก็ยังมีแผลเป็นนะ
3. ตอนอายุ 3 ขวบกว่าจะ4 ขวบ หม่าม้ากำลังประชุมที่ออฟฟิศ พ่อโทรมาบอกว่า เพิ่งออกมาจากห้องผ่าตัด ภูมิคางแตกเพราะลื่นลืม หม่าม้าอึ้งเลย พอเห็นภูมิอีกทีตอนเย็น สงสารมากก แผลลึก เย็บไป ร่วม 10 เข็ม ภูมิต้องไปล้างแผลที่โรงบาลทุกวัน ไปจนรู้จักกับพยาบาล ตอนนี้ก็ยังมีแผลเป็นให้หนูเห็นเช่นกัน
เห็นไหม มันไม่ใช่น้อยๆเลยนะ แผลเป็นแต่ละที่ของหนูเนี่ย ว่าแต่มีมาทุกขวบปีเลยนะหนูนะ
อาหารที่หนูชอบ
เรื่องอาหารกับภูมิเนี่ย เป็นปัญหาของพวกเราเลยหละ เพราะหนูกินยากมาก กว่าที่หม่าม้าจะทำให้หนูน้ำหนักขึ้นได้แต่ละกิโลนี่ มันยากมากกกกเลยนะ ขอบอก แล้วของที่หนูชอบ ก็พวก ถั่วแดง, มะเขือเทศ ,น้ำเต้าหู้, สาคู ,ถั่วงอก , ปลาทู , ขนมถุง , ช็อกโกแลต เอ๊ะ .. ชอบแบบไหนเนี่ยเหมือนๆจา healty แต่ก็ไม่ healty เท่าไหร่ แต่โดยรวมๆแล้ว ที่หนูโตมาขนาดนี้ เรื่องอาหารการกินก็ต้องยกให้ย่าเขาหละ ยังไง ยังไง หนูก็เป็นหลานรัก หลานโปรดของปู่กะย่าเสมอ
จักรยานคันแรกของภูมิ
หม่าม้าจำได้ว่า ตอนหนูอายุ 2 ขวบ ปู่กับย่าก็ซื้อจักรยานคันเล็กๆให้หนูไว้ปั่นเล่น แรกๆหนูก็ดุไม่ให้ความสนใจเท่าไหร่ เพราะไม่ค่อยมีแรงถีบ พอหม้าม้าซื้อบ้านอีกหลังที่บางใหญ่ ปู่ก็ซื้อจักรยานให้หนูอีกคัน สีแดงคันใหญ่กว่าเดิมนิดหน่อย ให้เอาไว้ปั่นที่บ้านโน้น ตอนนี้พ่อถอดล้อที่ 3 กับ 4 ออกแล้ว เพราะหวังว่าจะให้หนูลองหัดปั่นแบบ 2 ล้อบ้าง หนูก็ดูมีความพยามที่จะปั่น 2 ล้อนะ แต่ก็ยังกลัวล้มอยู่ เอาเป็นว่าหม่าม้าช่วยเชียร์นะ
เรื่องยุ่งๆเกี่ยวกับการเรียนของหนู
.jpg)
.jpg)
หม่าม้า update สดๆเลย วันนี้เพิ่งไปคุยกับคุณครูมา ตอนนี้หนูเรียนอนุบาล 3 แล้ว การเรียนต้องเข้มข้นมากขึ้น เพราะต้องเตรียมตัวขึ้น ป.1 ปัญหาคือว่า หนูเป็นคนไม่นิ่งเลย สมาธิหนูน้อยไปหน่อย เวลาให้หนุทำอะไร หนุจะไม่ค่อยทน แล้วจะยุกยิกตลอดเวลา คุณครุน้อย ซึ่งเป็นครูประจำชั้น จะบอกกับย่าเสมอ ว่าหนูช้ากว่าคนอืน หม่าม้าก็เครียดนะ พยามคิดว่า เด็กแต่ละคนไม่เท่ากัน แต่ใจก็กังวลว่าหนูจะเรียนได้หรือเปล่า
ปัญหาของหนูคืออะไรเหรอ?
- ภาษาไทย หนูจำตัวพยัญชนะได้หมดแล้วหละ แต่หนูอ่านผสมกับสระไม่ได้ หม่าม้าก็คิดว่า เอ??? เด็กอายุ 5 ขวบเขาต้องอ่านได้แค่ไหนนะ แต่ก็เอาหละ ต้องสู้กันสักตั้ง ยังไงก็ต้องทำให้ภูมิอ่านให้ได้ แล้วหม่าม้าก็งัดทุกกลยุทธ สอนภูมิทุกเย็น แล้วก็ทุกเสาร์ - อาทิตย์ หมาม้าหยุด หม่าม้าก็จะเรียกภูมิมานั่งอ่าน ฝึกกันไป มีบ้าง ที่ภูมิเจ็บตัว โดนตีบ้างแหละ แล้วภูมิก็สามารถอ่านได้ เช่น กา ขา มี จุ มู อะไรพวกนี้ แค่นี้หม่าม้าก็ดีใจแล้ว
- คณิตศาสตร์ อีกหละ ภูมสามารถเขียนตัวเลขเรียงกันไปได้จนถึง 30 แต่เวลาหม่าม้าให้เขียนตัวเลขออกมา เป็นตัวๆ ภุมิกลับจำไม่ได้ ภูมิจำได้แค่ 1 2 3 4 .....10 ไอ้ที่หม่าม้าเว้นนั้น คือ ภูมิเขียนไม่ได้ วันนี้เลยไปคุยกับครูว่า ให้ครูพยามเข้าใจ และช่วยหน่อย เพราะภูมิจำพวกตัวเลขนี้เป็นสัญลักษณ์ จำป็นตัวไม่ได้ แต่ครูก็บอกว่า เลยวัยที่จะจำอย่างนั้นแล้ว ต้องจำเป็นตัวๆ ฮ่าาาาา เย็นนี้หม่าม้าจะค่อยๆสอนแบบใหม่ เอาเป็นว่าเราเริ่มต้นกันใหม่เลยดีกว่านะลูกชาย สู้ สู้
ไปโรงเรียน

โรงเรียนแรกของหนู เริ่มตั้งแต่หนูอายุ 2.3 ขวบ จริงๆหม่าม้าก็ยังไม่คิดว่าหนูพร้อมนะ เพราะหนูยังติดย่า ติดปู่ แล้วก็ติดที่บ้านอยุ่มาก แ่ต่หม่าม้าก็ยอากให้ลองดู แล้วดรงเรียนแรกของหนูก็เิริ่มต้นขึ้น โรงเรียนวิบูลย์บริหาร คุณครูชื่อครูแต๋ว หม่าม้าตื่นเต้นมาก พ่อกับหม่าม้าไปส่งภูมิวันแรก ภูมิร้องไห้ลั่น ไม่ยอมอยู่ แต่หม้่าม้าก็ปล่อยเลย แล้วแอบฟังเสียงข้างนอก ภูมิก็ร้องไห้อยู่นานนะ หม่าม้าละใจเสียเลย ตอนเย็นเลยรีบไปรับตั้งกะบ่าย 2 คิดดุดิ ถึงขั้นลางานทั้งพ่อทั้งแม่( ไม่ธรรมดานะเนี่ย )ภูมิไปเรียนได้ประมาณ 2 เดือน ก็ร้องไห้ตลอดนะ ทุกวัน หม่าม้าเลยให้เรียนมั่ง หยุดมั่ง จนกระทั่งภุมิป่วยติดไวรัสนั่นแหละ รักษากันอยู่ร่วม 2เดือน ไม่ได้ไปโรงเรียนเลย หม่าม้าก็เลยให้หนูหยุด รอจนอายุ 2.9 ขวบ แล้วก็ไปเรียนที่โรงเรียนชาติศึกษา โรงเรียนในซอยบ้านเลยหละ
คราวนี้ดูหนุจะพร้อมมากว่าเดิมเยอะ หนูร้องไห้อยู่แค่ 3 วัน ก็เลิก อาจเพราะโรงเรียนมีอะไรน่าสนใจมากกว่าที่บ้านละมั้งเนี่ย แล้วหนูก็เรียนมาเรื่อยๆ เช้า หม่าม้าไปส่ง เย็น ย่าก็ไปรับ หนูเริ่มช่วยตัวเองได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ คุณครู อนุบาล 1 ชื่อครูอ๋อย หม่าม้าเคยเห็นเค้าตีหนู 1 ครั้ง เพราะหนูใส่รองเท้าผิดข้าง หม่าม้าโกรธมากเลย แต่จากนั้นมาก็ไม่เคยเห็นว่าหนูโดนตีอีก ( แต่ลับหลัง ไม่รู้นะ ) อนุบาล 2 หนูเรียนกับครูนิ่ม ครูใจดีมาก มาก หนุก็มีความสุขดี เพื่อนสนิทหนูก็มีหลายคน ทั้ง อูน,มะพร้าว, หยก, หลิน, ขวัญ , แต่ที่สนิทและรักมากนี่็ก็ไม่้พ้น
ร็อกกี้ ( เด็กชายผมม้า )ที่ชอบต่อยคนอื่น
หนูอยากคว่ำ
น้องภูมิ กับน้องแพง เหมือนกันมากในเรื่องการคว่ำ ที่คว่ำกันไม่ค่อยจะเป็น เดินได้ นั่งได้ ก่อนคว่ำซะอีก ว่าแต่หม่าม้าก็งงนะ เดินได้แล้ว ก็ยังต้องคว่ำให้ได้ด้วยเหรอ
ก้าวแรกของหนู
น้องภุมิอายุ ประมาณ 1.2 ขวบ ตอนนั้นหนูยืนได้แล้ว จำได้ว่า หนูยืนเกาะอยู่หน้าทีวี ตอนที่ย่ากำลังนั่งดูทีวี พ่อกับหม่าม้ากำลังนั่งกินข้าว หนูหันมามองแล้วแล้วก้าวขาเดินออกมา 1 ก้าว 2 ก้าว แล้วล้มนั่งแผละ นั่นก็คงเป็นนิมิตรหมายแล้วหละ ว่าต่อไป คงไม่มีเวลานั่งนิ่งๆของหนูแล้วแน่ เอ้า ทุกคนเตรียมงานเข้าจ้า
คำแรกของภูมิ
น้องภูมิเริ่มพูดคำแรกตอนอายุประมาณ 5 เดือน ตอนที่ปู่อ็อด ยื่นเงินให้ 1,000 บาท อาจเป็นความบังเอิญที่หนูปัดมือพอดี เงินเลยเข้าไปติดอยุ่อยู่ระหว่างเข่ากับมือ แล้วหนูก็พูดว่า "อัง" หม่าม้าก็คิดเอาเองนะ ว่าคงหมายถึงตังค์ อิ อิ ดีจริงลูกเรา จากนั้นหนูก็มีคำื่อื่นๆมาเรื่อยๆ เช่นว่า นั่น , หม่ำ , ม้า, ย่า
เลี้ยงลูกคนแรก ยังไงดีนะ
มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยนะเนี่ย กับการเลี้ยงลูก 1 คน ก็ไหนจะนม ไหนจะฉี่ ไหนจะนอน โอ๊ย หม่าม้าก็กังวลสารพัดแหละนะ จริงๆ 2 เดือนแรก หนูก็ไม่ได้เลี้ยงยากอะไร เพราะนอนทั้งวัน ตื่นกลางคืน
กลางวันนี่หนูนอนตลอด แต่กลางคืนไม่อยากนอน ไม่รู้เป็นอะไร บางคืนหม่าม้าต้องเลี้ยงหนูจนตี3 เลยนะ แล้วตี 5 ตื่นไปทำงาน เป็นอะไรที่ลุ้นมากๆ บางคืนเปลี่นเปลถึง 3 แบบ หนูยังไม่นอนเลย ต้องอุ้มเดินไปมาตลอด เอาว่าโดยรวมแล้วเนี่ย ช่วง 6-7 เดือนแรกนี่หนูเลี้ยงยากพอควรเลยแหละ แต่พอเข้าเดือนที่ 8 ก็สบายแล้ว หนูนอนเป็นเลามากขึ้น กลางวันเล่น กลางคืนนอนยาว ตืนมากินนม 1หน
ถึงเวลา เด็กชาย ภูมิ ชุ่มคุมสิน

1 กุมภาพันธ์ 2548 เวลา 9.39 น. ได้เวลาที่ ดช. ภูมิ ชุ่มคุมสิน ออกมาลืมตาดูโลก ตอนคลอดภูมิ หม่าม้าไม่ได้ร้องโอดโอยเหมือนในทีวีหรอกนะ เพราะหม่าม้าผ่าออก เลยไม่รู้ว่าตอนปวดท้องคลอดมันเจ็บแค่ไหน ตอนหนูคลอดออกมา คุณหมอพาหนูมาให้หม่าม้าดู หนูตัวโตมากกกก ...4.1 กิโล พยาบาลร้องโอ้โหเลยแหละ ตัวหนูสีเขียวๆ ม่วงๆนะ หมอให้ดูด้วยว่า ได้จุ๊ดจู๋นะคะคุณแม่ ( หม่าม้าคิดว่า ... อืม.. ไม่เบา เชื่อพ่อแรงใช้ได้ )จากนั้นเขาก็ห่มผ้าให้หนู พาหนูไปนอนอย่างอบอุ่น แล้วพยาบาลก็เข็นหนูไปห้องเด็กอ่อน พ่อก็วิ่งตามบันทึกภาพไป วันนั้นอี๊น้องก็ไปรอรับหนูด้วยนะ
ฟากหม่าม้า หลังจากที่หมอพาหนูออกมาแล้ว หมอก็พบว่าในมดลุกหม่าม้า ยังมีเนื้องอกอีก 3 เม็ด ต้องเรียกว่าเม็ด เพราะมันอยู่รวมกันเหมือนลูกชิ้นเสียบไม้อะ 3 ลูก หมอก็จัดการเอาออกซะ ( ทำไมต้องมาขึ้นที่ท้องชั้นมากมายด้วยเนี่ย หรือว่าท้องใหญ่ พื้นที่เยอะ )ยังไงก็ตามแต่ หม่าม้าดีใจที่มีภูมิ ลูกชายตัวน้อย
หม่าม้าอยากเล่า
น้องภูมิจะเชื่อไหม หม่าม้าจำทุกอย่างที่เป็นภูมิได้หมด จำได้แม้กระทั่งวันที่ภูมิเริ่มมาอยู่กับหม่าม้า ให้หม่าม้าได้ดูแลตั้งแต่ในท้องเลย ตอนนั้นหม่้าม้าอายุ 30 ได้แหละ ภูมิเริ่มมาอยู่กับหม่าม้าวันที่ 8 พค 47 ประจำเดือนหม่าม้าหายไป 3 วัน หม่าม้าลองตรวจดู แล้วก็เห็นว่า หม่าม่าเริ่มจะมีหนูละ จำได้ว่าหม่าม้าตรวจตอนประมาณทุ่มนึงของคืนวันที่ 10มิถุนายน 47 แล้วเดินเอาผลตรวจมาให้พ่อดู พ่อกระโดดตัวลอย แล้วพูดว่า เย้... ท้องแล้ว จะมีลูกแล้ว ทั้งพ่อกับหม่าม้าดีใจมาก หม้าม้าไปฝากท้องที่โรงพยาบาลพญาไท 3 แถวๆบ้านย่านั่นแหละ ไปตามนัดหมอไม่เคยขาด จนกระทั่ง 2 เดือนผ่านไป หมออุลตร้าซาวน์ แล้วบอกว่า หม่าม้าเป็นถุงน้ำที่รังไข่ ต้องผ่าออก เพราะมันจะแย่งอาหารของหนู ทำให้หนูอยู่ไม่สบาย หมอบอกว่าให้รอครบ 3เดือน แล้วค่อยผ่า เพราะถ้า 3 เดือนไปแล้ว หนูน่าจะพอดูแลตัวเองได้ เพราะได้เจ้าเนื้องอกนี้มันอยู่ติดกับหนูเลย กินอาหารด้วยกัน นอนด้วยกัน เวลาหนูโตขึ้น มันก็โตขึ้นด้วย พอครบ 3 เดือน ก็เลยเฉือนซะ ผ่าตัดเสร็จหนูก็ปลอดภัยแข็งแรงดี จนหนูอายุ 4 เดือน หมอก็ให้ฟังเสียงหัวใจหนูเต้น พ่อตื่นเต้นมาก ออกอาการโอ เวอร์ รอลุ้นเมื่อไหร่จะคลอดซะที
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)